เกียวโต (Kyoto)
เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี .794-1868 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยประชากรประมาณ 1.4 ล้านคน
1. วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือวัดทอง เป็นวัดของลัทธิเซนอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ซี่งในชั้นสองของวัดนั้นจะปกคลุมด้วยทอง โดยแต่ละชั้นจะตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่างกันดังนี้
เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี .794-1868 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยประชากรประมาณ 1.4 ล้านคน
1. วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือวัดทอง เป็นวัดของลัทธิเซนอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ซี่งในชั้นสองของวัดนั้นจะปกคลุมด้วยทอง โดยแต่ละชั้นจะตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่างกันดังนี้
ชั้นแรก จะตกแต่งแบบ Shinden Style เป็นลักษณะของพระราชวัง และชั้นที่สองตกแต่งแบบ Bukke Style ซึ่งใช้สำหรับให้เป็นที่พักของซาบูไร และในชั้นบนสุดจะตกแต่งในแบบ Chinese Zen Hall
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีเกียวโต โดยนั่ง Kyoto City Bus สาย 101 หรือ 205 ประมาณ 40 นาทีโดยประมาณ
2. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1603 ซึ่งเป็นยุคแรก ๆ ของการปกครองแบบโชกุนในยุคอิโด ปราสาทนิโจมีป้อมปราการที่เรียงตัวกันเป็นวงแหวนสองชั้น แต่ละชั้นจะมีทั้งกำแพงและคูน้ำกว้าง และยังมีกำแพงล้อมรอบพระราชวังนิโนมารุอีกชั้นหนึ่ง แต่มีความซับซ้อนน้อยกว่า กำแพงชั้นนอกของป้อมปราการมีประตูอยู่ 3 ประตู ส่วนกำแพงชั้นในมีอยู่ 2 ประตู ที่มุมทางตะวันตกเฉียงใต้ของกำแพงชั้นใน มีซากของป้อมปราการห้าชั้น ภายในกำแพงชั้นในเป็นที่ตั้งของพระราชวังฮอนมารุและอุทยาน ระหว่างวงแหวนป้อมปราการทั้งสองชั้น เป็นที่ตั้งของพระราชวังนิโนมารุ โรงครัว ป้อมสังเกตการณ์ และสวนหย่อมอีกจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาเยี่ยมชมที่นี่จะต้องเดินผ่านประตูขนาดใหญ่ทางด้านตะวันออกของปราสาท ซึ่งเป็นทางเข้าพระราชวังนิโนมารุ (ในอดีตเป็นที่พักและที่บัญชาการของโชกุน) โดยภายในพระราชวังจะประกอบด้วยอาคารหลาย ๆ อาคาร ซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกัน และมีการตกแต่งได้อย่างปราณีตและงดงาม นอกจากนี้ภายนอกพระราชวังยังมีสวนที่ตกแต่งในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งมีทั้งการตกแต่งด้วยหินและต้นสนมากมาย
การเดินทาง : สามารถเดินได้จากสถานีรถไฟใต้ดินนิโจโจมาเอะ (Nijojo-mae) ซึ่งใช้เส้นทางของ Tozai Subway Line
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีเกียวโต โดยนั่ง Kyoto City Bus สาย 101 หรือ 205 ประมาณ 40 นาทีโดยประมาณ
2. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1603 ซึ่งเป็นยุคแรก ๆ ของการปกครองแบบโชกุนในยุคอิโด ปราสาทนิโจมีป้อมปราการที่เรียงตัวกันเป็นวงแหวนสองชั้น แต่ละชั้นจะมีทั้งกำแพงและคูน้ำกว้าง และยังมีกำแพงล้อมรอบพระราชวังนิโนมารุอีกชั้นหนึ่ง แต่มีความซับซ้อนน้อยกว่า กำแพงชั้นนอกของป้อมปราการมีประตูอยู่ 3 ประตู ส่วนกำแพงชั้นในมีอยู่ 2 ประตู ที่มุมทางตะวันตกเฉียงใต้ของกำแพงชั้นใน มีซากของป้อมปราการห้าชั้น ภายในกำแพงชั้นในเป็นที่ตั้งของพระราชวังฮอนมารุและอุทยาน ระหว่างวงแหวนป้อมปราการทั้งสองชั้น เป็นที่ตั้งของพระราชวังนิโนมารุ โรงครัว ป้อมสังเกตการณ์ และสวนหย่อมอีกจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาเยี่ยมชมที่นี่จะต้องเดินผ่านประตูขนาดใหญ่ทางด้านตะวันออกของปราสาท ซึ่งเป็นทางเข้าพระราชวังนิโนมารุ (ในอดีตเป็นที่พักและที่บัญชาการของโชกุน) โดยภายในพระราชวังจะประกอบด้วยอาคารหลาย ๆ อาคาร ซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกัน และมีการตกแต่งได้อย่างปราณีตและงดงาม นอกจากนี้ภายนอกพระราชวังยังมีสวนที่ตกแต่งในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งมีทั้งการตกแต่งด้วยหินและต้นสนมากมาย
การเดินทาง : สามารถเดินได้จากสถานีรถไฟใต้ดินนิโจโจมาเอะ (Nijojo-mae) ซึ่งใช้เส้นทางของ Tozai Subway Line
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโตสามารถเดินทางได้โดยใช้ JR Bus โดยจะมีทุก ๆ 15-30 นาที
การเดินทาง : สามารถเดินได้จากวันนันเซนจิเพียงแค่ 5-10 กิโลเมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น